การออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่สำคัญมากเพราะจะช่วยป้องกันโรคเรื้อรัง เช่้น โรควูบ หัวใจขาดเลือด เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน โรคเครียด เป็นต้น ดังนั้นการออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากและต้องเริ่มตั้งแต่ เด็ก วัยรุ่น เพื่อหัดจนเป็นนิสัย (ที่ดี) ช่วยให้ห่างไกลยาเสพติด เป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ช่วยสร้างเสริมสุขภาพ ให้มีสมองและจิตใจแจ่มใสด้วย
ในปัจจุบันนี้ เด็กไทยใช้เวลาในกิจกรรมไม่เคลื่อนไหวร่างกายมากกว่าการออกกำลังกาย โดยวันธรรมดาดูโทรทัศน์และฟังวิทยุ 2 ชม. ในวันหยุดดูมากกว่า 2 - 4 ชม. ต่อวัน นอกจากนี้ยังเสียเวลากับการใช้คอมพิวเตอร์ ทั้งเล่นเกม และเล่นแชทกับเพื่อนๆ อีกทุกวัน วันละ 1 - 2 ชม. ทั้งการเล่นในบ้านและออกไปเล่นตามร้านเกม ซึ่งกลายเป็นจุดเสี่ยงสำคัญที่ทำให้มีการทำร้ายร่างกายกัน และยังมีการรวมกลุ่มแก็งวัยรุ่น นับเป็นปัญหาสำคัญอีกปัญหาหนึ่ง
สุขภาพที่แข็งแรง แสดงถึงคุณภาพชีวิตที่ดี การออกกำลังกายจึงเป็นของคู่กัน ชีวิตของคนเราไม่ควรขาดการออกกำลังกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยเด็ก ซึ่งเป็นวัยที่ำกำลังเจริญเติบโตทุกส่วน ตั้งแต่สรีระร่างกาย จิตใจ ความคิด ความจำ หากได้รับการออกกำลังกายก็ยังสามารถพัฒนาสุขภาพโดยรวมได้ทุกๆ ด้าน พ่อ แม่ จึงจำเป็นต้องให้การสนับสนุน และฝึกให้ลูกทำเป็นประจำสม่ำเสมอ เด็กที่ได้ออกกำลังกายจะมีข้อได้เปรียบ ดังนี้
ด้านการเจริญเติบโต
ถ้าเด็กได้ออกกำลังกายอย่างถูกหลักวิธี การเจริญเติบโตของเซลล์จะเจริญตามสัดส่วนไปด้วย ส่วนเด็กที่ไม่ได้ออกกำลังกายตามวัยอันควรอย่างเหมาะสม กระดูกจะเล็ก เปราะบางและขยายสัดส่วนในด้านความยาวได้ไม่ดีเท่าที่ควร จึงทำให้แคระแกร็น เติบโตช้า
ด้านสติปัญญา
การออกกำลังกายทำให้เกิดการกระตุ้นของฮอร์โมนต่างๆ หลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Growth hormone ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโต สามารถหลั่งออกมาได้มากขึ้น เสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง เกิดเชาว์ปัญญา ส่งผลให้การศึกษาเล่าเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่า
ด้านสุขภาพ
การออกกำลังกายจะช่วยกระตุุ้นระบบสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายให้มีคุณภาพสูงยิ่งขึ้น มีผลในการปกป้องร่างกายจากสิ่งแปลกปลอมของเชื้อโรค และสารภูมิแพ้ต่างๆ เด็กที่ขาดการออกกำลังกายจะมีโอกาสแทรกซ้อนได้บ่อย ซึ่งปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพนี้มักจะติดตัวไปจนถึงเติบโตเป็นผู้ใหญ่
ด้านสังคมและจิตใจ
การออกกำลังกายและเล่นกีฬาเป็นหมู่คณะ ทำให้เด็กรู้จักปรับตัวในสังคม จึงเป็นการเพาะบ่มให้เกิด EQ (ความฉลาดทางอารมณ์) สามารถเข้าใจความรู้สึก ความคิดของคนอื่นได้เป็นอย่างดี เป็นประโยชน์สุขในการดำรงชีวิตในสังคมเมื่อเติบใหญ่ข้อมูลบางส่วนจากแหล่งที่มา : วารสารทิศไท ฉบับที่ 3 เดือนมกราคม - มีนาคม 2554
ผู้แต่ง : นพ. อนันต์ โลหะพัฒนบำรุง
No comments:
Post a Comment