เด็กไม่ว่าจะชาติใด
ก็ชอบฟังนิทานด้วยกันทั้งนั้น
เพราะนิทานไม่ใช่แค่เรื่องของความเพลิดเพลินและจินตนาการสำหรับเด็กๆ
เท่านั้น แต่ยังฝึกทักษะการแก้ปัญหาอย่างสนุกสนาน
นิทานเป็นเรื่องของความบันเทิง
ลูกจึงฟังนิทานได้
ซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไม่เบื่อ ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องราวเดิมๆ ที่ฟังจนจำได้ขึ้นใจแล้วก็ตาม
ด้วยเหตุนี้พ่อแม่หรือครูจึงสามารถใช้การเล่านิทาน เพื่อแสดงออกถึงความรักและความเอาใจ
การเล่านิทานให้ลูกฟังเสมอๆ
จะช่วยพัฒนาทักษะการฟัง การพูด การกล้าแสดงออก พัฒนาการด้านอารมณ์ให้รับรู้อารมณ์ทางด้านความรัก
ความอบอุ่น ความเอาใจใส่ ความสนใจใคร่รู้ โดยเฉพาะยังช่วยฝึกการแก้ปัญหาให้ลูกด้วย
เริ่มที่...
1. เลือกเนื้อเรื่องที่มีการกำหนดสถานการณ์ที่เป็นปัญหาหรือยุ่งยากใจให้กับตัวละครเมื่อตัวละครไม่สามารถแก้ปัญหาได้ พ่อแม่หรือครูควรตั้งคำถามให้เด็กที่นั่งฟังตาแป๋วอยู่ได้ใช้ความคิดหาทางแก้ปัญหา
เพื่อช่วยตัวละครในนิทานดำเนินเนื้อเรื่องต่อให้จบ
เช่น มีชายชราคนหนึ่งปลูกหัวผักกาดไว้
เมื่อเวลาผ่านไปหลายวัน หัวผักกาดก็มีขนาดใหญ่ จนชายชราไม่สามารถถอนออกมาจากดินได้
ชายชราได้แต่นั่งเศร้าเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี แล้วให้เด็กๆ ช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรดีนะ
ถึงจะถอนหัวผักกาดยักษ์ออกมาจากดินได้
2. เตรียมคนเล่าและคนฟังนิทาน หลัง จากเลือกเรื่องที่เหมาะสมได้แล้วให้ทำความเข้าใจในเนื้อเรื่อง
ตัวละคร ลีลาอารมณ์ เรียงลำดับเหตุการณ์ ฝึกการใช้น้ำเสียงที่มีหนักเบาตามความหมายของคำและข้อความ
ทำเสียงสนทนาตามธรรมชาติ เช่น เสียงผู้ชาย ห้าวใหญ่ เสียงผู้หญิง นุ่ม แหลมเล็กน้อย
เสียงเด็ก แหลม สดใส เสียงคนแก่ อยู่ในลำคอ สั่นเครือ ฯลฯ
บทสนทนาอาจใช้ภาษาถิ่นหรือใช้คำคุ้นที่เจ้าตัวเล็กเคยชิน
แล้วอย่าลืมว่าสุดท้ายของการเล่านิทานทุกครั้งควรมีการสรุปเรื่องด้วยคำถาม เกี่ยวประเด็นสำคัญ
ลักษณะตัวละคร ความรู้และสิ่งที่ได้จากเรื่อง เพื่อให้เจ้าตัวเล็กได้คิดทบทวน
และเก็บข้อความรู้จากนิทานเป็นการย้ำเตือน
ทีนี้มาเตรียมคนฟังตัวน้อยๆ
กันค่ะ
- ใช้สถานที่ได้ทั้งนอกห้องหรือในห้อง
- มีแสงสว่างเพียงพอ อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่มีเสียงหรือกลิ่นอันไม่พึงประสงค์รบกวน
- จัดที่นั่งเจ้าตัวเล็กกับครูหรือพ่อแม่ให้ใกล้ชิดกัน โดยครูหรือพ่อแม่อาจนั่งสูงกว่าเจ้าตัวเล็กเล็กน้อย เพื่อสามารถแสดงภาพในหนังสือ หรือแสดงสื่อประกอบการเล่าในระดับสายตาเจ้าตัวเล็ก
- ถ้าเจ้าตัวเล็กมีจำนวนหลายคนก็ให้นั่งล้อมวงหน้าครูหรือพ่อแม่
- ก่อนเล่าต้องตกลงกับเจ้าตัวเล็กว่าระหว่างเล่านิทานนั้นต้องไม่มีการพูด คุย ส่งเสียงดัง ไม่ลุกขึ้นยืนหรือวิ่งเล่น ฯลฯ เพื่อให้อยู่ในระเบียบวินัยในขณะฟังนิทานค่ะ
3. ใช้สื่อประกอบจะช่วยให้การเล่านิทานมีชีวิตชีวาและน่าสนใจมากขึ้น
ครูหรือพ่อแม่จึงควรเลือกใช้สื่อที่มีลักษณะเป็นรูปธรรม กระตุ้นให้เจ้าตัวเล็กใช้จินตนาการตามประสบการณ์ของเขาให้มากที่สุด
เช่น หนังสือ ฉาก หุ่น ฯลฯ โดยการสร้างสื่ออย่างง่ายหรืออาจจะให้เจ้าตัวเล็กร่วมทำด้วยก็สนุกดีนะคะ
แถมยังภูมิใจในผลงานอีกด้วยด้วย
ต่อจากนี้ไปนิทานคงไม่แค่เรื่องของความบันเทิงเท่านั้น
แต่ยังเป็นสิ่งที่มีคุณค่าเป็นเครื่องถ่ายทอดความรัก สร้างสัมพันธ์ที่อบอุ่น
ความผูกพันในครอบครัว ปลูกฝังคุณธรรมความดี ตลอดจนส่งเสริมพัฒนาการให้กับเจ้าตัวเล็ก
ซึ่งจะเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าต่อประเทศชาติในอนาคตค่ะ
จาก
: นิตยสาร Kidscovery
เรียบเรียง : Momypedia
เรียบเรียง : Momypedia
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment