แนะ 7 ขั้นตอนที่พ่อแม่ต้องรู้
ปัญหา “ลูกไม่อยากไปโรงเรียน”
เป็นปัญหาที่พ่อแม่แทบทุกคนต้องพบเจอกับช่วงแรกในวัยเรียนของลูก
วิธีแก้ปัญหาในแต่ละชั้นตอนต้องทราบถึงสาเหตุเบื้องหลังที่ลูกไม่อยากไป
โรงเรียนด้วยนะคะ
- สอนให้ลูกไม่กลัวการพลัดพรากจากพ่อแม่
สาเหตุแรกๆ
ที่ทำให้เด็กไม่อยากไปโรงเรียนเพราะกลัวการพลัดพรากจากพ่อแม่
เวลาไปส่งเด็กเล็กในช่วงสองสามวันแรกที่โรงเรียน ให้ระวังคำพูดที่ใช้ล่ำลากับลูก
ควรใช้คำพูดที่หนักแน่นและมั่นคง
เป็นการให้ความมั่นใจกับลูกว่าหลังจากเลิกเรียนแล้วพ่อและแม่จะกลับมารับ เช่น “ขอให้สนุกที่โรงเรียนนะจ๊ะ
แม่จะไปรับหนูเวลาสองโมงครึ่ง”
ซึ่งเมื่อบอกลูกแล้วก็ต้องทำตามที่บอกให้ได้ หากลูกยังรู้สึกกลัว
ก็ควรยอมรับความรู้สึก “กลัว” ของลูกดีกว่าการบอกลูกว่า
“อย่ากลัว”
- สอนให้ลูกรู้จักทักษะการเข้าสังคม
เด็กบางคน ไม่ชอบโรงเรียนเพราะไม่มีเพื่อน
จึงรู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้างเวลาไปโรงเรียน ควรสอนให้ลูกรู้จักทักษะการเข้าสังคม
เช่น การแนะนำตัวกับเพื่อนก่อน หรือวิธีชวนเพื่อนมาเล่นกับเรา
รวมทั้งสอนวิธีการให้เด็กรู้จักปรับตัวเข้ากับเพื่อนก่อน เป็นต้น
- ใส่ใจและให้ความช่วยเหลือแก่ลูกในการเรียน และการทำกิจกรรมของโรงเรียน
เด็กบางคน
ไม่ชอบไปโรงเรียนเพราะไม่สามารถทำกิจกรรมหรือเรียนหนังสือได้ทันเพื่อนๆ
หากลูกกลัวที่จะต้องทำกิจกรรมบางอย่าง เช่น ต้องพูดหน้าชั้น
หรือกลัวสอบพ่อแม่อาจช่วยได้ด้วยการซักซ้อมที่บ้านก่อน เรื่องใหญ่ๆ
ในสายตาลูกจะน่าตกใจน้อยลงหากคุณช่วยแยกแยะให้เห็นเป็นประเด็นย่อยๆ
เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าทำได้
4. สังเกตพฤติกรรมลูกอย่างใกล้ชิด
หากสงสัยว่าลูกมีปัญหาในการเรียนรู้ควรพาไปหาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อช่วยวิเคราะห์อาการ
สาเหตุ
หนึ่งของการที่ลูกไม่อยากไปโรงเรียนเนื่องจากเรียนไม่ทันเพื่อน
ทำให้เกิดความท้อแท้ใจจนพาลไม่อยากไปโรงเรียน หากลูกมีปัญหาเรียนไม่ทันเพื่อน
หรือมีพัฒนาการไม่ตรงตามวัยซึ่งส่อว่าอาจมีปัญหาในเรื่องการเรียนรู้ ควรพาไปพบแพทย์โดยด่วน
5. หากลูกมีปัญหาถูกรังแก
พ่อแม่ควรยื่นมือเข้าไปช่วยเหลืออย่างถูกวิธี
บางครั้ง การที่เด็กกลัวการไปโรงเรียนเป็นเพราะถูกคนอื่นรังแก
ควรบอกลูกว่าหากถูกรังแกต้องบอกให้ครูทราบ และพยายามอยู่ห่างจากเด็กเกเร
หรือหากพ่อแม่ต้องเข้าไปช่วยเหลือ ควรไปหาครูใหญ่
เพื่อชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และควรกระทำอย่างนุ่มนวล ถ้ากลัวลูกไม่สบายใจช่วยแยกแยะให้เห็นเป็นประเด็นย่อยๆ
เพื่อให้ลูกรู้สึกว่าทำได้
6. โน้มน้าวความสนใจให้เด็กเห็นความสนุกสนานของการไปโรงเรียน
เด็ก
ทุกคนมีความอยากรู้อยากเห็น อยากเล่นสนุก หากครูรู้จะใช้วิธีการเบี่ยงเบนความสนใจ
โน้มน้าวใจให้เด็กเห็นว่าอยู่โรงเรียนมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำมากมาย
และอยู่ไม่นานผู้ปกครองก็จะมารับกลับ
ตรงจุดนี้ผู้ปกครองและครูควรร่วมกันทำให้เด็กเกิดความเชื่อมั่นและไว้ใจว่า อยู่โรงเรียนแล้วสนุก
พ่อแม่ก็มารับกลับตรงเวลา
7. พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ห่วงลูกมากเกินไป
พ่อแม่บาง คนจะทำอะไรให้ลูกทุกอย่างเพราะกลัวลูกจะเป็นอะไรไป
จนเด็กขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง เข้ากับใครไม่ค่อยได้นอกจากพ่อแม่
เพราะคนอื่นไม่อาจมาทำอะไรให้ได้อย่างพ่อแม่ โดยเฉพาะครูและเพื่อนๆ เลยรู้สึกขัดใจ
ในกรณีเช่นนี้พ่อแม่ต้องมั่นใจว่าเด็กสามารถอยู่กับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ ได้
หากพ่อแม่ให้กำลังใจและให้โอกาสเขาลดความห่วงที่มีมากเกินไปลง
ที่มา :
วารสารทอฝันปันรัก มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก
No comments:
Post a Comment