เป็นเรื่องปกติค่ะที่ลูกน้อยวัยซนนั้นจะดื้อและไม่เชื่อฟังสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่บอกบ้าง ในบางครั้ง
พฤติกรรมนี้ เป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการในการเรียนรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับการกระทำต่างๆ
ที่เค้าทำ การต่อต้านนั้นเป็นสิ่งที่ลูกน้อยใช้เพื่อแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองและการมีอิสระทางความคิดของเค้าค่ะ แต่ในบางครั้งปัญหานี้ก็อาจนำไปสู่ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อคุณแม่และลูกน้อยได้ค่ะ
เกร็ดเล็กๆ น้อยๆ
ต่อไปนี้อาจช่วยคุณพ่อคุณแม่ในการรับมือกับสถานการณ์นี้ได้ค่ะ
1. ค้นหาสิ่งที่น่าจะเป็นต้นตอของพฤติกรรมดังกล่าว:
อาจเป็นปัญหาภายในบ้าน ป้ญหาที่โรงเรียน ปัญหากับเพื่อน
ฯลฯ ซึ่งสามารถทำให้ลูกน้อยมีพฤติกรรมเช่นนี้ได้ทั้งนั้น
ที่สำคัญคือคุณพ่อคุณแม่และทุกคนในบ้านต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก
เพราะลูกจะสังเกตุว่าคนในครอบครัวรับมือกับเวลาที่มีปัญหาเกิดขึ้นอย่างไร
ดังนั้นเมื่อเวลามีปัญหา คนในบ้านควรแสดงให้ลูกน้อยเห็นว่าต้องรับมือกับปัญหานั้น ด้วยความสงบและใจเย็น
เคารพในความคิดเห็นของผู้อื่นแม้ว่าอาจจะไม่ตรงกับความคิดเห็นของเราก็ตาม
2. เปิดใจพูดกับลูก:
ควรให้ลูกรู้สึกว่าสามารถเปิดใจพูดกับคุณพ่อคุณแม่ได้ว่าเค้ามีปัญหาหรือไม่สบายใจเรื่องอะไร
หรือเค้าไม่ยอมเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่เพราะอะไร
ให้ลูกรู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่เป็นเพื่อนที่เค้าสามารถคุยด้วยได้นั่นเองค่ะ
3. ใจเย็น:
ทุกครั้งเมื่อลูกน้อยแสดงอาการดื้อหรือไม่ยอมเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่
สิ่งสำคัญอันดับแรกคือ คุณพ่อคุณแม่ต้องใจเย็นๆ
ค่ะ เพราะหากคุณพ่อคุณแม่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ลูกน้อยก็จะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบและแสดงออกแบบนั้นทุกครั้งเมื่อมีปัญหา
อย่างไรก็ตาม หากคุณพ่อคุณแม่รู้สึกว่าจะเริ่มควบคุมอารมณ์ไม่ได้
ควรแยกตัวออกจากสถานการณ์นั้นนะคะ
รอให้ใจเย็นขึ้นแล้วจึงค่อยกลับมาพูดกับลูกค่ะ
4. ชมลูกเมื่อลูกเชื่อฟัง:
เมื่อลูกน้อยเชื่อฟังในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่บอกก็ควรชื่นชมลูกน้อยนะคะ
ให้เค้ารู้สึกดี และเค้าก็จะค่อยๆ
รู้สึกอยากจะเชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่มากขึ้นเองค่ะ
5. เข้าใจลูก:
คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจว่าลูกน้อยนั้นกำลังอยู่ในช่วงที่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ต่างๆ
รอบตัวอยู่ตลอดเวลา เด็กส่วนมากมักจะรู้สึกว่าอยากมีอำนาจในการทำสิ่งต่างๆ
ด้วยตนเองแม้ว่าในบางครั้งเค้ายังทำไม่ได้ก็ตาม ดังนั้นการที่คุณพ่อคุณแม่เข้าใจภาวะของลูกน้อยก็จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจลูกน้อยมากขึ้นค่ะ
อย่างไรก็ตาม
หากลูกน้อยมีปัญหาการไม่เชื่อฟังคุณพ่อคุณแม่มาเป็นระยะเวลายาวนานและไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น
คุณพ่อคุณแม่ก็ควรปรึกษาคุณหมอหรือนักจิตวิทยาครอบครัวเพื่อหาแนวทางในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดีขึ้นนะคะ
แหล่งที่มา www.nestle.baby.com
No comments:
Post a Comment