โรคภูมิแพ้ ถือว่าเป็นโรคที่พบมากที่สุดในเด็ก
จากการศึกษาข้อมูลเด็กอายุ 0-5 ขวบ โดยภาวะภูมิแพ้ที่พบมากที่สุด คือ
การแพ้นมวัว หวัดเรื้อรัง โรคหอบหืด และโรคผื่นแพ้ผิวหนัง
ยารักษาภาวะโรคภูมิแพ้ส่วนใหญ่มีเป้าหมายเพื่อควบคุมอาการและป้องกันการเป็นซ้ำ
จึงมีความจำเป็นต้องใช้ยาอย่างต่อเนื่องในระยะยาว ผลลัพธ์จากการใช้ยาเป็นองค์ประกอบที่ใหญ่ที่สุดของต้นทุนการรักษาโดยตรง
ราวร้อยละ 46
ส่งผลให้ต้นทุนค่ารักษาสูงขึ้น
ดังนั้นการป้องกันโรคภูมิแพ้ตั้งแต่วัยแรกเกิดจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด
ด้วยการให้เด็กได้รับนมแม่อย่างน้อย 6 เดือนแรกของชีวิต เพราะมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี
และยังช่วยลดการสัมผัสกับโปรตีนแปลกปลอมจากนมวัว ป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้ได้
อุบัติการณ์ของโรคภูมิแพ้ในเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ
5 ขวบทั่วโลก มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
รายงานทางวิชาการล่าสุดพบว่า ร้อยละ 25 ของประชากรเด็กทั่วโลกป่วยเป็นโรคภูมิแพ้
ส่งผลต่อสภาวะสุขภาพและพัฒนาการของเด็ก ในบางรายอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ พ่อแม่ผู้ปกครองจึงควรหันมาให้ความสนใจป้องกัน
โดยหากเด็กเป็นภูมิแพ้แล้วควรรักษาและหาสาเหตุ คอยควบคุม ป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ
'การเลี้ยงลูกด้วยนมสูตรย่อยสลายโปรตีนบางส่วน (Partially
Hydrolyzed) ในช่วง 4 เดือนแรก
มีผลลัพธ์ในเชิงป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโรคผื่นแพ้ผิวหนัง
ซึ่งมีการติดตามผลการศึกษาถึง 6 ปี ก็ยังได้ผลอย่างมีนัยสำคัญ
เมื่อเทียบกับทารกที่เลี้ยงด้วยนมวัวสูตรปกติ ปัจจุบันยังมีนมสูตร H.A. ที่เสริมจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ เช่น บิฟิโดแบคทีเรีย ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่ช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและช่วยลดการเกิดภูมิ
แพ้'
คัดลอกข้อความบางส่วนจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด
รศ.พญ.จรุงจิตร์
No comments:
Post a Comment