Thursday, October 31, 2013

เลี้ยงเจ้าหนูก่อนวัยเรียนอย่างไร ให้โตไปเป็นเด็กฉลาด



 
       เมื่อลูกน้อยลืมตาขึ้นมาเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัว สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่อยากจะมอบให้เขาก่อนเป็นประการแรก ก็คือสุขภาพที่ดี เจ้าตัวเล็กจะได้เติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรง มีกำลังออกไปเรียนรู้โลกกว้างสร้างเสริมประสบการณ์และจินตนาการ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำหรับสิ่งดี ๆ ประการต่อมาที่คุณพ่อคุณแม่อยากจะมอบให้เขาอีก นั่นก็คือการเลี้ยงดูให้เขาเป็นเด็กฉลาดเฉลียว และเพราะการเรียนรู้ของลูกไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโรงเรียนเท่านั้น คุณสามารถปลูกฝังความฉลาดให้เจ้าตัวเล็กได้ตั้งแต่วัยก่อนเข้าเรียนอีกนะคะ

         เด็ก เล็ก ๆ เป็นวัยที่กำลังอยากรู้อยากเห็น และกำลังค่อย ๆ ซึมซับจดจำสิ่งต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นรอบตัวเป็นอย่างดี การเรียนรู้จึงเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อกับสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัว ถ้าได้ลองจัดสภาพแวดล้อม และปลูกฝังนิสัยช่างเรียนรู้ให้กับลูกตามคำแนะนำเหล่านี้ เจ้าตัวเล็กของคุณก็จะเติบโตขึ้นเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาดได้ไม่ยากเลยค่ะ

1. ปลูกฝังนิสัยรักการอ่านด้วยสภาพแวดล้อมที่เรียงรายด้วยหนังสือ

         คุณพ่อคุณแม่สามารถปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับลูกได้ตั้งแต่เขายังเล็ก ด้วยหนังสือสำหรับเด็กหลายเล่มเรียงรายไว้ในบ้านหรือในห้องของเขา ให้มันกลายเป็นชั้นหนังสือส่วนตัวขนาดย่อม ๆ ของเจ้าหนู และทำให้การอ่านเป็นเหมือนหนึ่งกิจกรรมประจำวันของลูก อย่างเปิดหนังสือภาพหรือหนังสือที่มีเพลง อ่านนิทานให้ลูกฟังก่อนเวลานอนกลางวันและก่อนนอนในตอนกลางคืน แม้เจ้าหนูจะยังอ่านไม่ออกหรือพูดยังอ้อแอ้อยู่ก็ตาม แต่จะช่วยให้เขาเติบโตไปกับนิสัยชอบอ่านหนังสือได้นะ

2. หมั่นพาเจ้าหนูสำรวจธรรมชาติ

         เด็กน้อยทุกคนเป็นนักสำรวจธรรมชาติตัวยง ลองสังเกตดูว่าเด็ก ๆ มักมองเห็นในสิ่งที่ผู้ใหญ่มองข้ามไปเสมอ กระทั่งก้อนกรวด ก้อนหิน ใบไม้ใบหญ้า แมลงตัวเล็ก ๆ ต่าง ๆ ที่ผู้ใหญ่มักไม่ค่อยก้มลงมาใส่ใจ แต่มันกลับเรียกร้องความอยากรู้อยากเห็นให้เจ้าหนูได้เสมอ งั้นคุณพ่อคุณแม่ลองลดวัย ทำตัวเป็นนักสำรวจธรรมชาติไปพร้อม ๆ กับลูก ด้วยการเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งรอบตัวไว้ให้ดี จะได้พร้อมตอบสารพัดปัญหาไขข้อสงสัยให้เจ้าหนูจำไมของคุณ ยามเช้าหรือยามบ่ายแก่ ๆ ลองพาลูกออกไปเดินสำรวจดูซิว่าในสวนที่บ้านหรือสวนสาธารณะ มีหญ้ากี่ชนิด หน้าตาเป็นอย่างไร มีต้นไม้ดอกไม้อะไรบ้าง มีแมลงตัวไหนมาอาศัยอยู่บ้างไหมนะ รวมทั้งกระตุ้นจินตนาการด้วยคำถามอย่าง ใบไม้ใบนี้มีรูปร่างยังไง เมฆก้อนนั้นหน้าตาเหมือนอะไร ลองหยิบหินมาวางเรียงเป็นรูปตามจินตนาการ สนุกไปพร้อม ๆ กันได้ทั้งคุณพ่อคุณแม่และคุณลูก

3. เสริมจินตนาการด้วยศิลปะ

         เตรียมอุปกรณ์สำหรับงานศิลปะที่เหมาะกับวัยของลูกไว้ให้เขาได้เล่น อย่างสีเทียนแท่งใหญ่ ๆ จับง่ายเหมาะกับเด็กเล็กเป็นที่สุด หากโตขึ้นมาหน่อยอาจเป็นดินน้ำมั้น สีไม้ หรือสีน้ำแทน และแม้ว่าการขีด ๆ เขียน ๆ ของลูกจะไม่ได้สวยงามหรือส่อให้เห็นแววศิลปินตัวน้อย แต่งานศิลปะจะช่วยให้เด็กมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แถมลายเส้นยึกยือที่คุณเห็นก็เป็นการปลดปล่อยจินตนาการของเขาออกมาอย่างอิสระด้วย

4. คุยให้ลูกฟังบ่อย ๆ

         ถึงเจ้าหนูของคุณจะยังไม่ทันพูดเป็นคำ แต่การคุยกับลูกบ่อย ๆ จะค่อย ๆ ทำให้ลูกเรียนรู้ทั้ง
สำเนียงและภาษาไปอย่างเป็นธรรมชาติ ลองคุยให้ลูกฟังไปเรื่อย ๆ เกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่คุณได้ทำได้เจอมาในวั้นนั้น เรื่องต่าง ๆ ที่น่าสนใจ และถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้หวังให้ลูกตอบโต้บทสนทนากับคุณได้ แต่ก็ให้พูดแล้วเว้นช่วงไว้บ้าง ไม่นานคุณจะได้ยินเจ้าตัวเล็กส่งเสียงอ้อแอ้สอดแทรกขึ้นมา หรืออาจจะเปล่งออกมาเป็นคำเลียนแบบเสียงของคุณเลยก็ได้นะ นั่นคือความพยายามในการสื่อสารกับคุณนั่นเองค่ะ

5. ชวนลูกนับเลข

         การเรียนรู้ตัวเลขเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนุกสนานระหว่างคุณพ่อคุณแม่และคุณลูก คุณไม่จำเป็นต้องหาซื้อของเล่นสำหรับช่วยนับมาโดยเฉพาะก็ได้ แค่ใช้ข้าวของที่อยู่รอบ ๆ ตัวคุณกับลูกก็เพียงพอแล้ว อย่างเช่น ชวนลูกนับนิ้วตัวเอง นับองุ่นที่อยู่ในถาดอาหารของเขา นับส้มในตะกร้า นับจำนวนไข่ที่อยู่ในถาด ฯลฯ ด้วยวิธีการเรียนรู้จากสิ่งที่เห็นรอบตัวและค่อยเป็นค่อยไปอย่างเป็นธรรมชาติ จะช่วยให้เมื่อเข้าสู่วัยเรียนรู้ เจ้าตัวเล็กของคุณจะเข้าใจพื้นฐานของตัวเลขและจำนวนได้อย่างรวดเร็วเลยล่ะค่ะ

         การเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กฉลาดจำเป็นต้องเริ่มต้นตั้งแต่เจ้าหนูยังเด็ก ยิ่งเล็กเท่าไหร่ก็ยิ่งได้เปรียบ เพราะคุณมีเวลาค่อย ๆ ปลูกฝังบ่มเพาะได้นาน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็ทำได้ไม่ยาก เพราะสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ได้จากทุก ๆ สิ่งที่อยู่รอบ ๆ ตัวเจ้าหนู แถมการใช้เวลาค่อย ๆ สอนลูกแบบนี้ยังทำให้คุณได้ใกล้ชิดกับลูกมากขึ้นด้วยนะคะ นอกจากได้ พัฒนาการเรื่องการเรียนรู้ เจ้าหนูยังซึมซับด้วยว่าคุณพ่อคุณแม่ต่างรัก เอาใจใส่ และใกล้ชิดกับเขาเสมอ มีส่วนให้เขาเติบโตมาเป็นเด็กที่ฉลาดทั้งด้านสติปัญญาและอารมณ์เลยล่ะค่ะ

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment