Wednesday, May 14, 2014

ลูกจะโตไปอ้วนหรือไม่ คนกำหนดคือพ่อ-แม่




          สถานการณ์เด็กอ้วนที่กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในสังคมสมัยใหม่ สาเหตุหลัก ๆ สองประการสำหรับความอ้วนของเด็กสมัยนี้มาจากพ่อแม่ที่ยุ่งจนไม่มีเวลาเอาใจใส่อาหารการกินของลูก และยอมให้ลูกกินอะไรก็ได้ตามใจ ยอมให้ลูกกินแบบนี้ก็ดีกว่าไม่ยอมกินอะไรเลย และประการที่สองคือไม่ยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปัญหา ปกป้องลูกแบบผิด ๆ โดยไม่ยอมรับว่าลูกของตัวเองนั้น "เป็นเด็กอ้วน" ซึ่งพ่อแม่ลักษณะนี้คงมีอยู่ไม่น้อยในบ้านเรา และหากคุณพ่อคุณแม่ยังไม่ปรับปรุงตัว ทำเป็นมองข้ามไม่ยอมรับปัญหา ปัญหาเด็กอ้วนก็อาจเข้าขั้นยากจะเยียวยาเหมือนปัญหาเด็กอ้วนที่เกิดขึ้นใน ประเทศอังกฤษ ที่พบว่ามีสัดส่วนเด็กอ้วนมากถึง 1 ใน 3 ของประชากรเด็กทั้งประเทศ

           ตามการรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล อ้างอิงจากสถาบันควบคุมน้ำหนักแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ซึ่งได้รับเด็ก ๆ เข้าร่วมโครงการลดน้ำหนักหลายคนกล่าวว่า ประเด็นเด็กอ้วนเป็นเรื่องที่อ่อนไหวมากในสังคมเมืองผู้ดี แม้แต่การตรวจสุขภาพและเกณฑ์การเติบโตของเด็กอังกฤษ ที่ตรวจเมื่อเด็กอายุ 5 และ 10 ปี ตามโปรแกรมการควบคุมน้ำหนักเด็กแห่งชาติ (National Child Measurement Programme) ยังไม่อนุญาตให้ใช้คำว่า "อ้วน" (fat) หรือ "อ้วนเกินไป" (obese) โดยเห็นว่าเป็นการประณามให้อับอาย แต่ให้ใช้คำว่า "น้ำหนักเกิน" (overweight) และ  "น้ำหนักเกินเกณฑ์มาก" (very overweight) แทน ทั้ง ๆ ที่คำว่า "อ้วน" เป็น คำที่กระตุ้นให้เกิดความตระหนักในปัญหาได้ดีกว่าด้วยซ้ำ นอกจากนี้ เพียง 20% ของผู้ปกครองมีลูกซึ่งถูกระบุว่าเป็นเด็กที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวเท่า นั้น ที่ยอมพาลูกมาร่วมโปรแกรมลดน้ำหนัก 

           ผู้ปกครองเด็กหลายรายไม่ยอมรับว่าลูกของตัวเองเป็นเด็กอ้วน โดยบอกว่าไขมันเด็ก ๆ นั้นไม่เป็นอันตราย เจ้าเนื้อนิดหน่อยเป็นเรื่องปกติ หรือเดี๋ยวโตไปก็ผอมลงเอง โดยไม่ได้ตระหนักเด็กที่เติบโตไปกับความอ้วน สุดท้ายจะประสบปัญหาในชีวิต ทั้งเรื่องสุขภาพและปัญหาเรื่องการเข้าสังคม โดยเฉพาะเมื่อเด็กย่างเข้าสู่วัยรุ่น ที่เริ่มสนใจกับรูปร่างหน้าตาของตัวเองมากขึ้น หลาคนกลายเป็นคนเก็บตัว ไม่คบเพื่อน ไม่ไปโรงเรียนเพราะไม่อยากโดนเพื่อนล้อ พลอยกลายเป็นเด็กที่มีสุขภาพจิตย่ำแย่

           ในขณะที่ผู้ปกครองอีกส่วนหนึ่งอยู่ในภาวะจำยอมให้ลูกตัวเองอ้วน โดยอ้างเรื่องงานที่ยุ่งและเวลาที่จำกัด ทำให้ไม่มีเวลาในการดูแลเรื่องอาหารการกินของลูกให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ รวมทั้งลูกเป็นเด็กกินยาก ไม่มีเวลามากพอจะเคี่ยวเข็ญให้ลูกกินของมีประโยชน์ จึงยอมให้ลูกกินของตามใจปาก ซึ่งมักไม่พ้นขนมกรุบกรอบ หรือขนมรสหวานเต็มไปด้วยน้ำตาล และคิดเสียว่าอย่างน้อยลูกก็ยอมกินอะไรเข้าไปบ้าง ดีกว่าไม่ยอมกินอะไรเลย

           หากเด็กคนไหนเติบโตมากับสภาพแวดล้อมที่คนใกล้ชิดเขาอย่างคุณพ่อคุณแม่ ปล่อยให้ลูกกินอาหารได้ตามใจปาก หนำซ้ำยังทำเป็นไม่เห็นปัญหาอ้วนของเด็กอีก ก็คงจะรับประกันได้เลยว่า เด็กคนนี้คนจะเติบโตมาเคียงคู่กับไขมัน ความอ้วน โรคคุกคามสุขภาพอีกเพียบ พร้อม ๆ กับอาจกลายเป็นคนเก็บตัว มีปัญหาเรื่องบุคลิกภาพและการเข้าสังคมไปในที่สุด

           โรคอ้วนในเด็กเป็นเรื่องที่ทำเป็นเล่น ๆ หรือคิดว่าโตกว่านี้ค่อยฝึกให้กินดี ๆ คงไม่ได้แล้ว ยิ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลและปลูกฝังลูกได้ตั้งแต่ยังเล็กมาเท่าไหร่ ก็จะดีต่อสุขภาพของลูกมากเท่านั้นนะคะ อย่าลืมว่าเด็กจะโตไปอ้วนหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับใครเลย แต่เป็นคุณพ่อคุณแม่นั่นเองที่จะช่วยกำหนดสิ่งนี้ให้กับเขาได้ค่ะ   

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment