Sunday, December 14, 2014

5 เทคนิคพิชิตลูกกินยาก !




            กรณีที่มีลูกกินยากและเลือกกินนั้น พ่อแม่หลาย ๆ คนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ในแต่ละมื้อกว่าจะสรรหาอาหารสักอย่างให้ถูกใจคุณหนูคงจะคิดแล้วคิดอีก และพยายามงัดกลยุทธ์มาหลอกล่อ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จมากนัก ซึ่งการปรับพฤติกรรมการกินของลูกให้ดีขึ้นนั้น ควรจะไปแก้ที่ต้นเหตุจะดีกว่าค่ะ

ทีวี...ต้นเหตุสำคัญ

            เราอาจจะปล่อยปละละเลยเด็กจนเกิดนิสัยการกินไม่ดี ไม่มีระเบียบ เลือกกินแต่สิ่งที่เคยกินเป็นประจำ หรือบางทีก็ปล่อยให้เด็กดูทีวีมากเกินไปในขณะที่กินอาหารโดยไม่ว่ากล่าวตัก เตือน ทำให้ลูกกลายเป็นเด็กที่มีนิสัยการกินไม่ดีในที่สุด

ความเชื่อผิด ๆ

            การบังคับให้เด็กกินอาหารแต่ละมื้อมาก ๆ เพราะเชื่อว่าเด็กที่อ้วนท้วนจะร่างกายแข็งแรงกว่าเด็กปกติทั่ว ๆ ไป เป็นความเข้าใจผิดอย่างมาก กลับจะยิ่งทำให้เด็กเกิดความเบื่ออาหารมากยิ่งขึ้นค่ะ

ใช้สิ่งของแลกเปลี่ยน

            การสัญญากับลูกว่า จะซื้อของเล่นให้ หรือพาไปเที่ยว เพียงเพื่อให้ลูกกินข้าวนั้น การกระทำเช่นนี้จะเป็นการเพาะนิสัยที่ไม่ดีให้กับลูก ทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ว่า การจะได้สิ่งที่ตนเองต้องการนั้นใช้การกินเป็นเงื่อนไขได้ ฉะนั้น ก่อนจะกินอาหารหรือจะทำอะไรก็แล้วแต่ ลูกก็จะเรียกร้องเอารางวัลจากเราอยู่เสมอ ซึ่งไม่มีวันจบสิ้นแน่นอนค่ะ

บังคับกินจนลูกอาเจียน

            การด่าเด็กในขณะกินอาหาร หรือบังคับให้กินอาหารที่ไม่ชอบ เด็กอาจมีปฏิกิริยาต่อสิ่งที่เขาไม่ชอบออกมาในรูปของการอาเจียนออกมาหมด ซึ่งนิสัยขี้อาเจียนนี้ อาจกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวเด็กไปตลอด และขยายไปสู่เหตุการณ์อื่น ๆ ที่เด็กไม่พอใจอะไรก็จะมีการอาเจียนออกมาค่ะ

            เราควรต้องสร้างบรรยากาศที่ดีในการรับประทานอาหารร่วมกันทั้งครอบครัว ทำให้ลูกมีอารมณ์แจ่มใส ร่าเริง ด้วยการพูดคุยในสิ่งที่สนุกสนาน มิใช่เอาเวลาขณะกินอาหารมาเป็นช่วงอบรมสั่งสอน ดุด่าเด็กค่ะ จะยิ่งทำให้เด็กเกิดความรู้สึกไม่ดีในการกินอาหารอย่างมาก ถ้ามีเรื่องไม่ถูกไม่ควรก็เอาไว้พูดกันทีหลังจะดีกว่าค่ะ

กำหนดเวลาให้ชัดเจน

            ไม่ควรปล่อยลูกให้ใช้เวลาการกินนานเกินไป ซึ่งตามธรรมดาเวลากินอาหารอย่างมากไม่ควรเกิน 30 นาที ถ้าหมดเวลาแล้วลูกยังกินไม่เสร็จก็ควรเก็บอาหารไปเสีย โดยวิธีนี้ จะเป็นการปลูกฝังนิสัยให้เด็กรู้จักวางตัวเป็นคนมีระเบียบวินัยที่ดีค่ะ

แหล่งที่มา  M&C แม่และเด็ก, http://baby.kapook.com/view45867.html
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment