Monday, August 9, 2010

ลูกขี้หงุดหงิด

คำถาม :  ลูกมีเวลาว่างไม่ได้เลย จะเกิดอารมณ์หงุดหงิดต้องหาเรื่องออกจากบ้าน หรือถ้าต้องอยู่บ้านก็จะดูทีวีตลอด จะทำอย่างไรให้ลูกเกิดความสงบในจิตใจได้ด้วยตนเอง

คำตอบ :  ตามพัฒนาการแล้ววัยรุ่นเป็นวัยที่ให้ความสำคัญกับเพื่่อนมากกว่าพ่อแม่ จึงชอบที่จะออกนอกบ้านไปมีสังคมกับเพื่อนฝูงมากกว่าพ่อแม่ แต่วัยรุ่นที่จะต้องออกนอกบ้านตลอดเวลาจนมากเกินไปก็น่าจะมีสาเหตุบางอย่าง เช่น บรรยากาศในครอบครัวไม่มีความสงบสุข พ่อแม่มีเวลาให้กับลูกน้อยและไม่เข้าใจความต้องการตามวัยของลูก วัยรุ่นบางคนก็อาจเป็นโรคสมาธิสั้น คนที่เป็นโรคสมาธิสั้นจะมีลักษณะอย่างหนึ่ง คือ เบื่อง่าย ต้องการอะไรที่สนุกสนาน ตื่นเต้นเร้าใจตลอดเวลา

สำหรับคำถามที่ว่าจะทำอย่างไรให้ลูกเกิดความสงบในจิตใจได้ด้วยตนเองนั้น ผมคิดว่าเป็นคำถามที่ดีและมีประโยชน์มาก สำหรับพ่อแม่ที่เพิ่งมีลูกด้วย การเลี้ยงลูกให้เกิดความสงบสุขในจิตใจได้ด้วยตนเองนั้นจะต้องเริ่มด้วยการเลี้ยงดูตั้งแต่แรกเกิดเลยทีเดียว ในขวบปีแรกของการเลี้ยงดูที่พ่อแม่มีความใกล้ชิดจนสามารถเข้าใจความต้องการของลูกในเวลาที่ลูกร้องไห้ เช่น ต้องการกินนม ต้องการให้พ่อแม่อุ้ม เป็นต้น และสามารถตอบสนองความต้องการดังกล่าวได้อย่างทันท่วงทีและสม่ำเสมอ จะช่วยให้เขาเกิดความมั่นใจว่าความต้องการของเขาในเวลาที่มีความทุกข์จะได้รับการตอบสนอง เป็นพื้นฐานที่ทำให้ลูกสามารถสงบตัวเองได้เร็ว

หลังจากนั้นก็คงเป็นเรื่องที่พ่อแม่ต้องเลี้ยงดูให้ลูกมีความนับถือตนเอง หรือ self-esteem ดี คนที่มี self-esteem ดีจะมีเความสุขได้ง่าย คือสามารถมีความสุขในตัวเองโดยไม่ต้องอาศัยความสุขจากภายนอก การเลี้ยงดูให้ลูกมีความนับถือตนเองพ่อแม่ก็ต้องให้ความรักความอบอุ่นอย่างสม่ำเสมอ รู้จักฝึกวินัยอย่างเหมาะสม ไม่เลี้ยงดูอย่างตามใจ เด็กที่มีระเบียบวินัยจะมีความนับถือตนเองว่ามีความสามารถอะไร เปิดโอกาสให้ลูกได้ทำอะไรที่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งต้องรู้จักชมเชยให้รางวัลบางอย่าง เมื่อลูกมีความพยายามและสามารถทำอะไรบางอย่างได้สำเร็จ และไม่พูดตำหนิบ่นว่าในเรื่องที่เขาเคยทำผิดซ้ำซาก พ่อแม่ยังต้องฝึกลูกให้มีวิถีการดำเนินชีวิตอย่างถูููกต้องมาตั้งแต่เด็กด้วย คืิอ ต้องสนับสนุนให้ลูกทำกิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวมาก แทนที่จะปล่อยให้ลูกอยู่กับโทรทัศน์จนเกิดความเคยชิน สุุุดท้ายพ่อแม่ก็ต้องเป็นแบบอย่างที่เราก็พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ด้วยเสียก่อนครับ


แหล่งข้อมูลอ้างอิง :  teen & family
                             Vol.11 No.122 May 2006

No comments:

Post a Comment