1) อมข้าว : ลูกน้อยไม่ยอมเคี้ยวข้าว อมข้าวจนแก้มตุ่ย ใช้เวลานานกว่าจะหมด 1 คำ หรือในที่สุด คายข้าวออกมา เพราะรสชาติอาหารจืดลง เพราะอมไว้ในปากนานเกินไป
2) กินช้า : ใช้เวลาการกินต่อ 1 มื้อ นานตั้งแต่ครึ่งชั่วโมง จนถึง 1 ชั่วโมง เด็กๆ อาจสนใจสิ่งเร้าอื่นๆ เช่น ทีวี ของเล่น เป็นต้น ทำให้จุดสนใจไปอยู่ที่สิ่งเร้าเลยไม่สนใจการกิน คุณแม่ต้องถือช้อนรอจนเมื่อย
3) กินแต่ขนม : ปฏิเสธที่จะกินอาหารมื้อหลัก แต่เรียกร้องที่จะกินแต่ขนมระหว่างมื้อแทน ติดใจรสชาติขนม เพราะอาจจะมีรสสัมผัสที่กรุบกรอบ รสชาติที่ถูกใจ แต่ไม่มีประโยชน์ เพราะส่วนใหญ่มักเป็นอาหารจำพวกแป้งและผงชูรส
4) กินซ้ำ : กินแต่อาหารเดิมๆ ซ้ำๆ เช่น ชอบกินแต่ไข่ตุ๋น ก็จะเรียกร้องกินแต่ไข่ตุ๋น และปฏิเสธอาหารเมนูอื่นๆ ทำให้กินอาหารได้ไม่หลากหลาย
5) กินน้อย : กินได้นิดๆ หน่อยๆ ก็บ่นว่าอิ่มแล้ว และไม่อยากกินอาหารอีก อาจเป็นเพราะเด็กห่วงเล่น สนใจในสิ่งอื่นๆ หรืออาจจะเป็นจากรสชาติในเมนูอาหารที่เขาไม่ถูกปาก เพราะเด็กแต่ละคนก็มีความชอบในรสชาติที่ต่างกัน
6) เลือกกิน : อาการที่พบบ่อย คือ ไม่กินผัก ผลไม้ เลยเลือกที่จะไม่กินอาหารชนิดอื่นแทนที่อยู่บนจาน อาจมีความเสี่ยงให้เด็กได้รับสารอาหารที่ไม่หลากหลายและไม่สมดุล
7) ชอบเขี่ย : เขี่ยอาหารในจานเล่น ไม่ยอมกิน แต่ชอบเขี่ยเล่นมากกว่า อาจจะเป็นเพราะรสชาติอาหารที่ไม่ถูกปากหรือมีอาหารที่ไม่ชอบ
หากลูกมี 1 ใน 7 พฤติกรรมดังกล่าวข้างต้น คุณแม่อย่านิ่งนอนใจ เพราะอาจมีผลกระทบในด้านต่างๆ ดังนี้
ผลต่อการเรียนรู้ : คะแนน Mental Development Index Score ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ของเด็กอยู่ในระดับต่ำ จากงานวิจัยพบว่า คะแนน Mental Development Score (MDI) ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ของเด็กที่มีพฤติกรรมกินยาก ช่างเลือกต่ำกว่าเด็กทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ
ผลด้านสุขภาพ : เพิ่มโอกาสในการเจ็บป่วย เด็กที่มีพฤติกรรมกินยาก ช่างเลือก มีแนวโน้มที่จะอ่อนแอ เพิ่มโอกาสในการติดเชื้อ อันมีผลให้เด็กเจ็บป่วยได้ง่าย
ผลต่อการเจริญเติบโต : น้ำหนักตัวน้อย เด็กที่มีพฤติกรรมกินยาก ช่างเลือก มีความเสื่ยงเป็น 2 เท่า ที่จะมีคะแนน BMI (Body Mass Index < 10th percentile) เมื่อเทียบกับเด็กทั่วไป
ผลด้านโภชนาการ : ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เด็กที่มีพฤติกรรมกินยาก ช่างเลือก มีแนวโน้มที่จะมีความเสี่ยงที่จะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอมากกว่าเด็กทั่วไป
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : "Mother & Care" มกราคม 2555
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์
No comments:
Post a Comment