คร่อก ครืด ฟืด กรน

คร่อก ครืด ครืด....นอนกรนเกิดขึ้นกับทุกคนทุกวัย อาจดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่จริงๆแล้วไม่ปกติ ยิ่งหากเกิดกับลูกเล็กด้วยแล้ว คุณพ่อคุณแม่ยิ่งต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษเลยล่ะค่ะ

ข้อเท็จจริง : การนอนกรนเป็นสิ่งผิดปกติ บ่งบอกว่ามีช่องทางเดินหายใจแคบ ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่อส่วนที่แคบนั้น การนอนกรนในเด็กมักเกี่ยวข้องกับการคัดจมูก โรคภูมิแพ้ เยื่อบุจมูก หรือไซนัสอักเสบ ต้องนอนอ้าปากหายใจ ถ้าอาการทางจมูกดีขึ้นเด็กมักกรนน้อยลงได้บ้าง เด็กบางคนอาจมีต่อมทอนซิล หรือ ต่อมอะดินอยด์โตมากกว่าปกติ ทำให้นอนกรน หายใจแรง จนบางครั้งหน้าอกบุ๋มเลยก็มี เด็กจะไม่สามารถนอนหงายได้จึงมักนอนดิ้นไปดิ้นมา แต่จะนอนได้นานในท่าตะแคงหรือนอนคว่ำ และบางคนอาจมีปัสสาวะราดรดที่นอนร่วมด้วย

อันตรายของโรคนอนกรนในเด็ก

1.จะพบในกรณีที่มีอาการมาก เช่น กรนเสียงดัง อ้าปากหายใจ หายใจแรงจนบางครั้งเห็นรอยบุ๋มบริเวณหน้าอกและคอขณะหายใจเข้า

2.เกิดภาวะขาดออกซิเจนในขณะนอนหลับ เป็นเหตุให้มีพัฒนาการของสมองและร่างกายแย่ลง

3.เมื่อการนอนหลับไม่ดีจะทำให้ฮอร์โมนในการเจริญเติบโตที่จะหลั่งออกมาในขณะหลับสนิทมีปริมาณลดลงหรือไม่เพียงพอ ส่งผลทำให้ร่างกายของเด็กไม่โตเท่าที่ควร โดยเฉพาะความสูง

4.ปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน ปัสสาวะรดที่นอน

5.นอนหลับไม่สนิท นอนดิ้นไปดิ้นมา ผวาตื่น หรือฝันร้ายได้

6.ในรายเด็กที่มีต่อมอะดินอยด์ใหญ่มาก จะอ้าปากเสมอ เวลานอน ทำให้มีลักษณะกระดูกเพดานปากโก่งสูง ฟันหน้ายื่นเหยินออกมาจนผิดรูปได้ เนื่องจากเด็กหายใจเข้าออกผ่านทางปาก ไม่ค่อยหายใจทางจมูก ซึ่งเป็นช่องทางหายใจตามปกติ

7.นั่งสัปหงกในห้องเรียน ไม่มีสมาธิในการเรียน ความสามารถในการจดจำลดลง เรียนหนังสือไม่เก่ง ทั้งๆ ที่น่าจะเรียนได้ดีกว่านี้

8.หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย เพราะหลับไม่พอ

9.ทำให้เด็กมีปัญหาสมาธิสั้น หรือซน ไม่สามารถจดจ่อกับกิจกรรม เช่น อ่านหนังสือ แต่ไม่รวมถึงการดูทีวี หรือ เล่นเกม ซึ่งเด็กจะทำได้นาน

การรักษา :  ต้องทราบสาเหตุก่อนว่า เกิดจากปัญหาทางจมูก หรือมีปัญหาอื่น เช่น ต่อมทอนซิล หรือต่อมอะดินอยด์โตร่วมด้วยหรือเปล่า

ถ้ามีแต่ปัญหาทางจมูก จะใช้การรักษาทางยา เช่น รักษาโรคภูมิแพ้ หรือไซนัสอักเสบ โดยการกินยา หรือพ่นยา รวมทั้งการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ อาจทำให้ดีขึ้นได้มาก ถ้ามีปัญหาเรื่องต่อมทอนซิล หรือต่อมอะดินอยด์โตจนทำให้มีอาการนอนกรนชนิดอันตราย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อพิจารณาการผ่าตัด

โห....การกรนในเด็กไม่ใช่เรื่องเล็กๆที่จะละเลยซะแล้วนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.iammomsociety.com / momchannel.com

ถักรัก ทอสายใย เชื่อมหัวใจในครอบครัวกับ http://family.truelife.com/