ห้องนอนลูก เรื่องใกล้ตัวที่สุดแสนจะสำคัญ
เพราะเขานั้นต้องอาศัยกลิ้งเล่นหลับนอนที่ห้องนี้ตั้งแต่เล็กจนโต และนอกจากเป็นห้องพักผ่อนแล้วยังถือเป็นห้องส่วนตัวที่แสดงเอกลักษณ์ของตัวเองออกมาด้วย
เด็กเล็กมักจะใช้เวลา
ส่วนใหญ่ในการนอน ห้องนี้จึงเป็นห้องที่เขาจะต้องใช้บ่อยที่สุด การจัดให้ห้องน่านอน
และสะดวกในการใช้งานนั้น มีข้อที่ต้องคำนึงถึงดังนี้ค่ะ
บรรยากาศ : ควรจะดูสงบเงียบ
โปร่งสบาย ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป
ในกรณีที่ติดเครื่องปรับอากาศก็ควรดูอุณหภูมิให้อยู่ที่ 24-26 องศาเซลเซียส
เตียงนอน : อุปกรณ์สำคัญคงไม่พ้นเตียงนอน
ซึ่งเตียงนอนเด็กเล็ก นั้นต้องดูให้มีโครงสร้างแข็งแรง
ระยะซีกรงห่างไม่เกิน 2 3/8 นิ้ว แผงข้างเตียงมีความสูงไม่น้อยกว่า
26 นิ้ว หรือเมื่อลดแผงลงก็ต้องสูงไม่น้อยกว่า 9 นิ้ว ในปัจจุบันมีแบบระบบ Double Lock ที่จะป้องกันไม่ให้เด็กดันแผงข้างเตียงลงได้เอง
และล้อล็อกได้ รวมทั้งการดีไซน์ที่ไม่มีขอบมุมที่คม อีกทั้งสีก็จะเป็นแบบไร้สารตะกั่ว
ไม่หลุดลอกง่าย และแถบพลาสติกหุ้มที่มีคุณภาพ เพื่อป้องกันเด็กกัดเนื้อไม้
ตู้เสื้อผ้า : มีหลายแบบให้เลือก
อาจจะเป็นตู้เก็บของแล้วมีลิ้นชักเก็บเสื้อผ้าได้ในตัวก็ได้ หรือเป็นลิ้นชักอย่างเดียว
แล้วใช้ด้านบนของตู้เสื้อผ้าจัดเป็นที่เปลี่ยนผ้าอ้อมลูกได้ โดยควรจัดตู้ชิดเข้าฝาผนัง
แต่คุณแม่อาจเปลี่ยนผ้าอ้อม หรือเสื้อผ้าลูกที่เตียงก็ได้ค่ะ
โทนสี : สำหรับเด็กเล็ก
ควรเป็นสีโทนอ่อนเพื่อให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เพื่อการหลับที่ยาวนานค่ะ
ขอขอบคุณ : KITSO เอื้อเฟื้อสถานที่ถ่ายภาพ
และข้อมูล
ห้องนอนเด็กโต
(3-6 ปี)
ในช่วงวัยที่เจ้าหนูเริ่มเคลื่อนไหวได้
คล่องแคล่วขึ้น มีกิจกรรมที่จะทำเยอะขึ้น ห้องนอนของเขาจึงไม่ใช่แค่ห้องที่จะใช้นอนเพียงอย่างเดียว
แต่เป็นที่สำหรับทำกิจกรรมอื่นๆ อีกด้วย
วัสดุ : เฟอร์นิเจอร์ในห้องนอนเป็นสิ่งที่ลูกต้องสัมผัสอยู่ทุกวัน
คุณพ่อคุณแม่ต้องเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้วัสดุที่ปลอดภัยต่อเด็ก เช่น การเลือกใช้ไม้มาตรฐาน
E1 ที่ปล่อยสารฟอร์มัลดีไฮน์ต่ำ ทำให้ไม่มีกลิ่นฉุน ลดการระคายเคืองต่อผิว
โดยเฉพาะผู้เป็นภูมิแพ้และเด็ก
โครงสร้าง : โดยเฉพาะเตียงเด็กนั้น
ควรจะต้องมีความแข็งแรง เพราะไม่ใช่แค่เป็นที่นอนของลูก แต่บางทีก็เป็นลานเล่นของเขาด้วย
ซึ่งลูกอาจมีการกระโดดโลดเต้นบนที่นอนได้ ดังนั้นโครงสร้างเตียงควรเป็นแบบ Firm
Structure คือใช้ไม้เต็มแผ่นรองใต้ที่นอน
และมีคานเหล็กรองรับอีกชั้น ทำให้ไม่ยุบตัวง่าย รับน้ำหนักได้ดี
ดีไซน์เพื่อความปลอดภัย : สำหรับเด็กใน
ช่วงวัยนี้ เขามักจะไม่อยู่นิ่ง เคลื่อนไหวรวดเร็ว และไม่ค่อยระมัดระวัง จนอาจทำให้ไปชนมุมโต๊ะ
มุมเตียงได้บ่อยๆ หากเลือกดูเฟอร์นิเจอร์ที่มีความโค้งมนก็จะช่วยลดความรุนแรงของการกระแทกลง
ได้ หรือในส่วนที่เป็นบานพับของตู้หรือลิ้นชัก หากใช้เป็นโช้คกันกระแทก ก็จะช่วยให้เด็กสามารถเปิด-ปิดลิ้นชักได้เองอย่างมั่นใจมากขึ้น
จัดสรรพื้นที่ : สำหรับบ้านที่มีพื้นที่จำกัด
อาจเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีการใช้งานได้หลากหลาย เช่น เตียง 2 ชั้น ที่บันไดเป็นช่องเก็บของได้ หรือชุดเตียงนอนที่มีส่วนยื่นมาเป็นโต๊ะเขียนหนังสือได้
ก็จะช่วยเรื่องการจัดสรรพื้นที่ได้
การเติบโตของลูก : ในการเลือกเตียงอาจจะต้องเผื่อสำหรับการเติบโตของลูก
เพื่อจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย โดยเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งเป็นขนาดกำลังเหมาะที่ใช้ไปได้อีกหลายปีค่ะ
และเริ่มต้นเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นก่อน อย่างเตียงหรือตู้เสื้อผ้า พอโตขึ้นอีกหน่อย
อาจค่อยเพิ่มโต๊ะเขียนหนังสือ โต๊ะเครื่องแป้ง แล้วแต่ความต้องการของลูกต่อไป
ห้องนอนเล็กๆ
ที่เป็นจุดกำเนิดของเรื่องราวและความทรงจำที่จะติดตัวเด็กไปอีกนานเท่านาน เราคนเป็นพ่อเป็นแม่
คงต้องใส่ใจในรายละเอียดเป็นพิเศษ หวังว่าวันนี้คุณจะเกทไอเดียไปประยุกต์ใช้สร้างห้องจิ๋วแสนน่ารักให้เจ้าหนู
ได้ไม่มากก็น้อยนะคะ
แหล่งที่มา Modern Mom
แหล่งที่มา Modern Mom
No comments:
Post a Comment