Friday, November 30, 2012

พัฒนาการของลูกน้อยวัยหัดเดิน



การเฝ้าดูพัฒนาการของลูกน้อยวัยหัดเดินเป็นช่วงเวลาที่มีค่าอย่างแท้จริง จากก้าวน้อยๆ เป็นกระโดดและวิ่ง จากทารกที่อ้อแอ้เป็นการพูดประโยคยาวๆ การเป็นคุณแม่นั้นเป็นบทบาทที่สำคัญมากและมีหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณแม่สามารถทำได้ เพื่อช่วย ส่งเสริมลูกน้อยที่กำลังเจริญเติบโต 

การให้นม
ถึงแม้พัฒนาการต่างๆ อาจชักนำให้แม่มีความรู้สึกว่าลูกน้อยวัยหัดเดินเป็นเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อย แต่จริงๆ แล้วลูกน้อยยังต้องใช้เวลาในการเติบโตอีกมาก และความต้องการทางโภชนาการของลูกนั้นก็ค่อนข้างแตกต่างจากของผู้ใหญ่มากทีเดียว เนื่องจากลูกน้อยวัยหัดเดินต้องการอาหารที่มีไขมันสูงกว่าและมีเส้นใยอาหาร ที่ต่ำกว่าที่แนะนำให้สำหรับผู้ใหญ่
 
เพื่อให้เกิดสมดุลของพลังงาน และสารอาหารในอาหารของลูกน้อย ลูกน้อยวัยหัดเดินนั้นต้องการอาหารที่ได้สัดส่วน 3 มื้อเล็กๆ ต่อวัน โดยมีของว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการระหว่างมื้ออย่างสม่ำเสมอด้วย คุณแม่สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ และอาหารที่ได้สัดส่วนของลูกน้อยวัยหัดเดินได้ในหัวข้อ การหย่านม

พัฒนาการของลูกน้อยของคุณมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในช่วงวัยนี้
นอกจากพัฒนาการในการรับรู้รสชาติและรับรู้ความชอบที่มีต่ออาหารประเภทต่างๆและ รสสัมผัสใหม่ๆ แล้ว ลูกน้อย  วัยหัดเดินยังมีพัฒนาการด้านสามารถในสิ่งที่เขาพอทำได้ รวมถึงการสำรวจ การพูดและการเรียนรู้อีกด้วย

การแสดงออก
หลังจากที่เคลื่อนไหวช้าๆ เตาะแตะไปตามเฟอร์นิเจอร์ได้ไม่กี่เดือน ลูกน้อยวัยหัดเดินของคุณแม่ก็ใกล้จะฉายเดี่ยวได้แล้วและอีกไม่นานลูกน้อยจะ มีพัฒนาการอย่างรวดเร็วในการเดิน วิ่ง และกระโดดโลดเต้นไปมา ซึ่งเป็นช่วงวัยสำคัญที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง
 
เมื่อใกล้ครบรอบ ขวบปีที่สองจะเริ่มสังเกตเห็นว่าลูกน้อยถนัดมือซ้ายหรือมือขวาได้อย่าง ชัดเจนขึ้น เนื่องจากลูกจะชอบใช้ข้างที่ถนัดในการขีดเขียน เตะบอลและหยิบอาหาร นอกจากนี้ลูกน้อยยังสามารถแปรงฟันได้ด้วยตัวเอง โดยอาจมีคนคอยช่วยหรือดูแลอยู่ข้างๆด้วย
 
เมื่อลูกน้อยวัยหัดเดินมีพัฒนาการเกี่ยวกับทักษะในการเคลื่อนไหว เพิ่มมากขึ้น ลูกจะยิ่งกระตือรือร้น ปีน กระโดด และวิ่งไปมามากขึ้น ซึ่งเป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี ดังนั้น คุณแม่จึงจำเป็นต้องแน่ใจว่า อาหารของลูกน้อยมีคุณค่าและได้สัดส่วนเพียงพอกับพลังงานที่ลูกต้องการในแต่ ละวัน 
นักสำรวจตัวน้อย
ในช่วงวัย 12-18 เดือน ลูกน้อยวัยหัดเดินยังรู้จักคำศัพท์เพียงไม่กี่คำและไม่สามารถแสดงความรู้สึก ของตัวเองหรือบอกให้คุณแม่รู้ในสิ่งที่ลูกต้องการได้เสมอไป ดังนั้นคุณแม่จึงต้องพร้อมรับมือกับอารมณ์เกรี้ยวกราดและอาการโมโหอย่าง รุนแรงของลูก ช่วงแรกๆ คุณแม่จะสังเกตเห็นว่าลูกน้อยวัยหัดเดินของคุณเริ่มรู้จักตัวเองมากขึ้น โดยพูดคำว่า หนูหรือชื่อของตัวเองบ่อยมาก แต่คุณแม่ต้องอดทนเพราะลูกเรียนรู้ที่จะเริ่มทำความเข้าใจถึงนิยามของคำว่า แบ่งปัน ดังนั้นการแย่งของเล่นแล้วตะโกนว่า ของหนูนั้น ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา และคุณแม่ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปหากลูกน้อยวัยหัดเดินของคุณชอบที่จะอยู่คน เดียวมากกว่าที่จะเล่นรวมกลุ่มกับเพื่อน ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดามากๆ เช่นกัน

การพูด
อีกไม่นานคุณแม่จะเริ่มสังเกตเห็นพัฒนาการด้านทักษาะการสื่อสารที่เพิ่มขึ้นของ ลูกน้อยวัยหัดเดิน โดยคำต่างๆ ที่เขาพูดจะค่อยๆ พัฒนาเป็นวลีและเป็นการร้องขอ  และคุณแม่ไม่ต้องเป็นกังวลจนเกินไปหากลูกน้อยยังไม่ค่อยใช้คำหลายๆ คำ เพราะในช่วงวัยนี้ลูกจะ เข้าใจมากกว่าที่จะสามารถ พูดได้ และแทนที่จะใช้ประโยคที่สมบูรณ์ ลูกน้อยจะเริ่มจากการใช้คำคำเดียวเพื่ออธิบายในสิ่งที่ลูกต้องการ เช่นถ้วยแทนคำว่า หนูอยากได้ถ้วยและ หมีแทน ขอตุ๊กตาหมีให้หนูหน่อยแล้วในที่สุดลูกน้อยก็จะเริ่มผสมคำสองคำเข้าด้วยกัน อย่างเช่น เล่นหนูเมื่อลูกต้องการให้คุณเล่นกับลูก และลูกจะเริ่มฟังอย่างตั้งใจมากในสิ่งที่คุณกำลังพูด ซึ่งในช่วงวัยนี้มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ลูกน้อยวัยหัดเดินของคุณ เริ่มต้องการฟังเพลงกล่อมเด็กและเพลงต่างๆ ดังนั้น จึงเป็นความคิดที่ดีที่คุณแม่จะรื้อฟื้นความทรงจำและนึกถึงเพลงโปรดเมื่อ สมัยวัยเด็กของคุณเอง

การเรียนรู้
การรับรู้ที่มากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และความต้องการในการแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองที่มากขึ้นนั้น แสดงให้เห็นว่าลูกน้อยวัยหัดเดินของคุณ อาจต้องการมีอำนาจในการควบคุมบ้างเป็นครั้งคราว

คุณแม่สามารถสนับสนุนลูกโดยปล่อยให้ลูกน้อยตัดสินใจด้วยตัวเอง เช่น อาจให้ลูกเลือกเสื้อผ้าใส่เองหรือเลือกเกมที่จะเล่นและคุณแม่ควรสนับสนุนให้ ลูกน้อยวัยหัดเดินได้ใช้ทักษะใหม่ ๆ ในการเคลื่อนไหวในการฝึกเดินแบบต่างๆ เช่น เดินไปทางด้านข้าง เดินถอยหลัง เดินหน้า รวมถึงวิ่งและกระโดดด้วย

นอกจากนี้คุณแม่ต้องระวังการแสดงออกทางหน้าตาและภาษาที่แปลกหู เพราะส่วนใหญ่แล้วลูกน้อยวัยหัดเดินเรียนรู้ด้วยการเลียนแบบคุณนั่นเอง และบางครั้งคุณแม่อาจจะต้องประหลาดใจกับสิ่งที่ลูกน้อยจดจำและนำกลับมาใช้ใน สถานที่และเวลาที่คุณคาดไม่ถึง

โดย   ศุภลักษณ์, นักโภชนาการ
แหล่งที่มา  http://www.dumex.co.th




No comments:

Post a Comment