Sunday, July 28, 2013

10 เคล็ดลับดูแลลูกง่าย ๆ ที่คุณแม่อาจยังไม่เคยรู้



คุณแม่มือใหม่รวมไปถึงคุณแม่ลูกอ่อน มักจะต้องการคำแนะนำในการเลี้ยงดูลูกน้อยอยู่เสมอ ทั้งจากคุณแม่ของตัวเอง หรือจากแหล่งความรู้ทั้งหนังสือ และเว็บบอร์ดต่าง ๆ แต่หลากหลายเคล็ดลับที่มีอยู่ อาจจะตกหล่นเคล็ดลับง่าย ๆ เหล่านี้ไปก็ได้ค่ะ ดังนั้นกระปุกดอทคอมจึงรวบรวม 10 เคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับดูแลลูกน้อยมาฝากคุณแม่กันตามนี้เลย

1. เด็กร้องไห้บ่อย ๆ อาจไม่ใช่เด็กโคลิค

           กุมารแพทย์เคยถกเถียงกันในประเด็นที่เด็กร้องไห้บ่อย ๆ ว่าจะเป็นเด็กโคลิคหรือเปล่า จนในที่สุดก็ได้ค้นพบว่า สาเหตุของการร้องไห้นั้นอาจจะเป็นเพราะเด็กไม่สบายตัวจากอาการจุกเสียดแน่น ท้อง หรือเป็นกรดไหลย้อนต่างหาก แต่ว่าพ่อและแม่ก็ควรต้องสังเกตอาการของลูกดี ๆ ด้วยนะคะ ว่าเขาชอบร้องไห้เวลาไหน หรือเข้าข่ายเป็นเด็กโคลิคหรือเปล่า วิธีสังเกตก็ไม่ยาก หากลูกอยู่ในช่วงแรกเกิดถึง 3 เดือน และชอบร้องไห้ช่วงเย็น หรือร้องไห้เป็นเวลา บ่อยแต่ไม่ทุกวัน ก็อาจจะเข้าข่ายเป็นเด็กโคลิค หรือถ้าพ้นช่วง 3 เดือนแล้วยังร้องอยู่ คงต้องปรึกษาแพทย์เพื่อหาเหตุที่แท้จริงกันต่อไปแล้วล่ะ

2. อุ้มลูกได้บ่อยเท่าที่ต้องการ

           แม้ว่าจะเคยได้ยินและได้ฟังคำเตือนจากคุณแม่รุ่นเก๋ามานักต่อนัก ว่าการอุ้มลูกบ่อย ๆ จะทำให้เด็กเสียนิสัย หรือมีนิสัยเอาแต่ใจตัวเอง แต่จริง ๆ แล้วกุมารแพทย์แนะนำว่า ให้โละความเชื่อเหล่านั้นเข้ากรุไปเลยดีกว่า เพราะการอุ้มลูกไว้ในอ้อมแขน และอยู่กับลูกในทุกสถานการณ์ จะช่วยส่งเสริมให้เขาเป็นเด็กที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าอยู่ตลอดเวลา

3. เมินทิชชูเปียก

           เด็กทารกที่ยังดื่มนมแม่อยู่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ทิชชูเปียก หรือ เบบี้ ไวพส์  (Baby wipes) สักนิด เพราะปัสสาวะและอุจจาระของเด็กที่ดื่มนมแม่นั้นมีความเป็นกรด และแบคทีเรียอ่อนมาก อีกทั้งยังเหลวและทำความสะอาดได้ง่าย เพียงแค่ใช้ผ้านุ่ม ๆ ชุบน้ำแล้วเช็ดทำความสะอาด หรือจะล้างก้นเด็กด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ ก่อนจะเปลี่ยนผ้าอ้อมผืนใหม่ก็ได้ ไม่เปลืองเงินซื้อทิชชูเปียก แถมไม่ระคายเคืองก้นอันอ่อนโยนของลูกอีกด้วย

4. ซึมซับอีกชั้นในตอนกลางคืน

           ในกรณีที่ลูกน้อยหลับลึกและหลับนานในช่วงกลางคืน ให้คุณเสริมเกราะป้องกันให้ผ้าอ้อมด้วยการสอดผ้าอนามัยเข้าไป เพื่อให้ช่วยซึมซับปัสสาวะลูกน้อยได้อีกชั้น ไม่ให้ซึมเปื้อนที่นอนในตอนเช้า หรือจะใช้ผ้าอ้อมชนิดกลางคืนที่มีขายอยู่ทั่วไปตามร้านค้าก็ได้

5. ลืมวิธีเก่า ๆ ที่ใช้ฆ่าเชื้อโรคของใช้ลูก

           ของใช้กระจุกกระจิกของลูกที่คุณเคยนำไปต้มในน้ำเดือดเพื่อฆ่าเชื้อโรค เปลี่ยนมาใช้วิธีใหม่ที่ง่าย และประหยัดเวลากว่า ให้สมกับเป็นคุณแม่ยุคใหม่ดีกว่าไหม วิธีที่ว่าก็แค่นำของใช้ของลูกที่ต้องการจะฆ่าเชื้อโรค ไปวางไว้ในเครื่องล้างจาน แล้วก็กดปุ่มให้เครื่องล้างจานทำงานตามปกติ ปล่อยให้น้ำร้อน ๆ ในกระบวนการการทำงานของเครื่องล้างจาน ช่วยฆ่าเชื้อโรคให้ของใช้ลูกดูจะสะดวกสบายกว่าเนอะ

6. ระวังลูกเล่นสงกรานต์ใส่หน้า

           เมื่อเจ้าตัวเล็กสัมผัสกับอากาศเย็น ๆ ร่างกายของเขาจะอยากปัสสาวะ ดังนั้นทุกครั้งก่อนเปิดผ้าอ้อมให้ส่วนนั้นของลูกน้อยสัมผัสความเย็น ให้คุณค่อย ๆ เปิดผ้าอ้อมออกโดยใช้ผ้ามาบังตรงส่วนนั้นของเขาเอาไว้ก่อน แล้วค่อย ๆ แกะผ้าอ้อมออกก็ได้ ไม่เช่นนั้นเจ้าตัวเล็กอาจจะฝึกเล่นสงกรานต์ตั้งแต่เด็ก จนทั้งคุณและเฟอร์นิเจอร์เปียกปอนไปตาม ๆ กัน

7. กล่อมเขาด้วยดนตรี

           แง แง แง ถ้าเด็ก ๆ ร้องกระจองอแงกันไม่หยุดหย่อน ให้ลองเปิดเพลงจังหวะสบาย ๆ เบา ๆ กล่อมเขาดูสิ แล้วสังเกตดูว่าดนตรีประมาณไหน จะทำให้เขาสงบลงได้ หรือจังหวะไหนที่จะทำให้เขาอารมณ์ดีขึ้น

8. เก็บรองเท้าเอาไว้ก่อน

           จับลูกน้อยใส่รองเท้าคู่เล็ก ๆ แล้วถ่ายรูปเป็นอะไรที่น่ารักสุด ๆ ไปเลย แต่ยังไม่ถึงเวลาหรือเปล่าคะ เพราะเด็กในวัยยังไม่หัดเดิน รองเท้าคือสิ่งที่ไม่จำเป็นเลย ถ้าอยากให้เจ้าตัวเล็กแต่งตัวน่ารัก เปลี่ยนพร็อพให้เขามาใส่ถุงเท้าลายสวย ๆ กระจุ๋มกระจิ๋มแทนดีกว่า น่ารักได้เหมือนกันแถมถูกกว่าอีกด้วย

9. ดูดหลอดไม่เป็นไม่ใช่ปัญหา

           เด็กเล็กอาจจะยังไม่มีทักษะในการใช้หลอดดูด แต่เมื่อถึงช่วงที่เขาต้องเข้าโรงเรียนที่จะไม่สามารถใช้ขวดนมได้อีกก็ไม่ ใช่ปัญหา เพราะเดี๋ยวนี้ก็มีขวดน้ำที่มีฝาจุกเหมือนขวดนม ให้ได้เลือกใช้กันมากมาย แล้วพอโตขึ้นประสบการณ์ก็จะสอนให้เขาดูดหลอดได้ด้วยตัวเองค่ะ

10. สร้างบรรยากาศในการนอนหลับ

           กำลังปวดหัวเนื่องจากนอนไม่พอกันอยู่หรือเปล่าคะ ก็แหม เด็ก ๆ สะดุ้งตื่นกันบ่อย แถมยังตื่นแต่เช้าตรู่อีกด้วย ถ้าเป็นอย่างนี้คนที่รับศึกหนักก็คงต้องเป็นพ่อแม่แน่นอน ดังนั้นเรามาสร้างบรรยากาศให้เขานอนหลับได้สบายแบบยาว ๆ ด้วยการปิดม่านห้องนอนเพื่อกันไม่ให้แสงเข้า ควรเลือกใช้ม่านสีทึบเพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูเป็นกลางคืนที่สุดด้วย ส่วนเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย ก็ใช้วิธีค่อย ๆ พูดอธิบายกับเขาว่าเวลานอนของเขาคือกี่โมง และเวลาตื่นนอนควรเป็นกี่โมงจะดีกว่า วิธีนี้ดีทั้งกับพ่อแม่และเด็กอย่างแน่นอนค่ะ ต่างฝ่ายจะได้นอนหลับกันได้อย่างเต็มอิ่ม ตื่นเช้าจะได้สดชื่นกันถ้วนหน้า

           เคล็ด ลับทั้ง 10 ข้อนี้อาจจะเป็นสิ่งที่คุณแม่บางคนทราบดีอยู่แล้ว หรือคุณแม่หลายคนอาจจะยังไม่เคยทราบเลย แต่ยังไงเราก็หวังว่าเคล็ดลับทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณแม่ทุกท่านดูแลลูกน้อย ได้ง่ายขึ้นนะคะ

แหล่งที่มา  http://baby.kapook.com/view65064.html

No comments:

Post a Comment