ฝึกเจ้าหนูห่างไกลขนมขบเคี้ยว

     ขนม" กับ "เด็ก" เป็นสิ่งที่มักจะมาคู่กันเสมอ โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ที่ชอบรับประทานขนมขบเคี้ยว ซึ่งมีแป้งเป็นส่วนประกอบหลัก ที่ปัจจุบันมีให้เลือกหลายแบบหลายรสชาติ และสีสัน กระตุ้นความสนใจให้เจ้าหนูติดขนมกันงอมแงม

     ขนมขบเคี้ยวที่เป็นอาหารว่างเหล่านี้ โดยเฉพาะขนมกรุบกรอบที่เด็กๆ นิยมซื้อมาทานกว่า 90% มีคุณค่าทางโภชนาการน้อยมาก เต็มไปด้วยสารอาหารที่เกินพอดี เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ขนมกรุบกรอบจะเน้นความมันกับรสเค็ม จึงมีน้ำมันและโซเดียมหรือส่วนผสมที่ทำให้เกิดรสเค็ม อย่าง เกลือ ผงชูรส ซีอิ๊ว น้ำปลา ปริมาณสูงมาก ส่วนผสมที่เป็นความอร่อยเหล่านี้ เมื่อทานต่อเนื่องจะทำให้ไตทำงานหนัก เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูงค่ะ

     หากเจ้าหนูของคุณแม่เกิดงอแงร่ำร้องอยากจะกินขนมขบเคี้ยวให้ได้ คุณแม่อาจให้ลูกน้อยทานได้ เพียงแต่ต้องจำกัดปริมาณ ไม่ควรเกิน 1 ห่อต่อวัน และควรจะเป็นห่อเล็ก เพราะว่าช่วงวัยเด็กสมองกำลังเจริญเติบโต การกินขนมรส เค็ม หวาน ตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้รสชาตินี้ติดอยู่ในกระแสประสาท เด็กเสพติดได้ง่าย กินจืดไม่เป็น เสี่ยงที่จะมีแนวโน้มเป็นโรคอ้วน ความดันสูง ปริมาณน้ำตาลและไขมันสูง ซึ่งในปัจจุบันพบว่า เด็กอายุ 3 ขวบป่วยเป็นโรคเบาหวานมากขึ้น และในอนาคตจะมีผู้ป่วยโรคไตเพิ่มมากขึ้น เพราะขนมขบเคี้ยวนอกจากความหวานยังมีเกลือโซเดียมในปริมาณมากด้วย

     คุณแม่ควรปลูกฝังลูกในการสร้างนิสัยการกินที่ดี เน้นให้กินพืชผักผลไม้ อาหารปรุงเอง หากลูกอยากทานขนมก็อาจหาขนมไทยๆ ที่อร่อยและสะอาด ถูกหลักอนามัย หากทำเองได้ก็จะยิ่งดี ซึ่งจะทำให้ลูกน้อยและทุกคนในครอบครัวปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคภัยต่างๆ ค่ะ

แหล่งที่มา  http://www.enfababy.com

ภาพจากอินเตอร์เน็ต